ลดต้นทุนการผลิตด้วย OEE Analytic
OEE คืออะไร ทำไมถึงต้องรู้จัก
ถ้าการวัด KPI คือการประเมินประสิทธิภาพของพนักงานในบริษัท OEE (Overall Equipment Effectiveness) ก็เปรียบเสมือน
การวัดประสิทธิภาพโดยรวมของเครื่องจักร
Overall Equipment Effectiveness (OEE): ประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักร คือ วิธีการคำนวณความสามารถในการทำงาน
ทั้งหมดของเครื่องจักรภายในโรงงานเครื่องจักรที่ดีไม่ใช่เป็นเพียงแค่เครื่องจักรที่ไม่เสีย เปิดสวิตช์เมื่อใดทำงานได้เมื่อนั้น
หากแต่ต้องเป็นเครื่องจักรที่เปิดขึ้นมาแล้วทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
คือ เดินเครื่องได้เต็มกำลังความสามารถ แต่ถ้าเครื่องจักรใช้งานได้ตลอดเวลาและเดินเครื่องได้เต็มกำลัง แต่ชิ้นงานที่ผลิตออกมา
ไม่มีคุณภาพ ก็คงไม่มีประโยชน์อะไร ดังนั้นเรื่องคุณภาพของงานที่ออกมาจึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะใช้ในการพิจารณาเครื่องจักร
และที่สำคัญเครื่องจักรที่ดีต้องใช้งานได้อย่างปลอดภัย โดยอ้างอิงจากปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและสรุปออกมาเป็นตัวเลข
โดยการคำนวณ OEE จะมีส่วนประกอบหลัก 3 อย่าง คือ
1. Availability อัตราการเดินเครื่องจักร หรือ สมรรถนะความพร้อมของเครื่องจักรโดยจะเทียบตามแผนในการผลิต
ของหน่วยการผลิตนั้นๆหากไม่สามารถผลิตได้ หรือ สูญเสียความสามารถในการผลิตจะเรียกว่า “availability losses”
หรือสามารถคำนวนได้จาก
Availability = Operating Time / Scheduled time
Availability = สมรรถนะความพร้อมของเครื่องจักร
Operating Time = เวลาในการเดินเครื่องจักรผลิตในโรงงาน
Scheduled Time = เวลาที่ถูกวางแผนในการเดินเครื่องจักรผลิตในโรงงาน
2. Performance ประสิทธิภาพของเครื่องจักร หรือ ประสิทธิภาพในการผลิต อาจจะเรียกว่า อัตราการผลิต (Process rate)
เป็นตัวแปรที่มองว่า หน่วยผลิตสามารถผลิตได้เท่าไหร่เมื่อเทียบกับความเร็วในการผลิตที่ออกแบบไว้ในกรณีที่ผลิตได้ช้า
จากการออกแบบไว้ เราจะเรียกว่า “Speed losses” หรือสามารถคำนวนได้จาก
Performance = Actual speed / Design speed
Performance = ประสิทธิภาพในการผลิต
Actual speed = เวลาที่่ใช้จริงในการผลิต
Design speed = เวลาที่่ออกแบบในการผลิต
3. Quality อัตราคุณภาพ หรือ คุณภาพของผลิตภัณฑ์ เป็นการบ่งบอกว่าสินค้าที่ผลิตออกมามีคุณภาพไหม โดยกำหนดจากระบบ
QA/QC ในโรงงาน โดยเป็นการบอกปริมาณสินค้าที่ได้คุณภาพมีเปอร์เซ็นเท่าไหร่จากปริมาณเท่าหมดส่วนปริมาณสินค้า
ที่เสียไปจะเรียกว่า “Quality losses”
Quality = (Units produced – defective units) / (Units produced)
Quality = คุณภาพของผลิิตภัณฑ์
Units produced = ปริมาณสินค้สที่ได้คุณภาพ
Defective units = ปริมาณสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ
Units produce = ปริมาณสินค้าทั้งหมด
OEE = อัตราเดินเครื่อง x ประสิทธิภาพเดินเครื่อง x อัตราคุณภาพ
(Availability) (Performance Efficiency) (Quality Rate)
ซึ่งเมื่อนำปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อระบบการผลิต อันได้แก่ พนักงาน, เครื่องจักร และชิ้นงานที่ผลิต มาวิเคราะห์แล้ว
จะทำให้ทราบได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับระบบการผลิตของเราบ้าง ซึ่ง OEE จะเป็นดัชนีที่ชี้ให้เห็นสภาพโดยรวมในระบบการผลิตนั่น
เองและส่วนประกอบ 3 อย่างนี้ก็จะมีปัจจัยแยกย่อยลงไป เพื่อให้การคำนวณนั้นตรงกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นภายในโรงงานมาก
ที่สุด
เกณฑ์มาตรฐานของ OEE
ประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักรอุปกรณ์ (Overall Equipment Effectiveness : OEE) ที่ตั้งเป็นมาตรฐาน (World Class)
อัตราการเดินเครื่อง(Availability) = 90%
ประสิทธิภาพการเดินเครื่อง(Performance Efficiency)= 95%
อัตราคุณภาพ(Quality Rate)= 99%ดังนั้น
ประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักรอุปกรณ์ (Overall Equipment Effectiveness : OEE) = 0.90 x 0.95x 0.99 x 100 = 85%
**ค่าดังกล่าวมิใช่ค่าเป้าหมายที่บังคับใช้ (สามารถกำหนดค่าเป้าหมายได้ความเหมาะสมของแต่ละโรงงาน)
ประโยชน์ของ OEE คือเพื่อนำมาใช้ในการปรับปรุงเครื่องจักรหรือกระบวนการผลิต
เป็นการติดตามสภาพการทำงานของเครื่องจักรใน แต่ละวันอย่างยุติธรรมเที่ยงตรง เพื่อลดของเสียและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้ดียิ่งขึ้นรวมถึงทำให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างถุกจุด